รายชื่อมิจฉาชีพต้องรู้! ตรวจสอบเพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลสำคัญ
หัวข้อบทความ: รายชื่อมิจฉาชีพต้องรู้! ตรวจสอบเพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลสำคัญ
การเข้าถึงข้อมูลสำคัญของบุคคลหนึ่งถูกขโมยใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตตั้งแต่ไม่กี่วินาที การขโมยข้อมูลมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้ที่ขโมยข้อมูลเหล่านั้น ซึ่งจะทำให้เกิดการก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลนั้น ๆ
เพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลสำคัญดังกล่าว มิจฉาชีพต่าง ๆ จึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องรู้ ถ้าหากเราช่วยกันตรวจสอบและป้องกันก่อนที่จะเกิดอันตราย ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก
ในบทความนี้จะนำเสนอรายชื่อมิจฉาชีพที่ต้องรู้เพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลสำคัญ โดยมีหัวข้อแบ่งออกเป็น 4 ส่วนดังนี้
ส่วนที่ 1: ความหมายของมิจฉาชีพ
ก่อนจะพูดถึงรายชื่อมิจฉาชีพ มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า มิจฉาชีพคืออะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องรู้สำหรับการตรวจสอบและป้องกันการขโมยข้อมูลสำคัญ
มิจฉาชีพคือ การเข้าถึงและใช้ข้อมูลของบุคคลหรือองค์กรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล การขโมยข้อมูลอาจมีอิทธิพลกับความเป็นส่วนตัวของบุคคลได้ ซึ่งเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายอาจต้องใช้มิจฉาชีพในการตรวจสอบและป้องกัน
ส่วนที่ 2: รายชื่อมิจฉาชีพที่ต้องรู้
2.1 การแฮกคอมพิวเตอร์ (Hacking)
การแฮกคอมพิวเตอร์คือการเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของบุคคลหรือองค์กรได้โดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้ข้อมูลหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่อไป การแฮกคอมพิวเตอร์นั้นเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคลนั้น ๆ
2.2 การฟิชชิ่ง (Phishing)
การฟิชชิ่งเป็นการขโมยข้อมูลแบบหลอกลวงผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต โดยต้องมีการสร้างเว็บไซต์เทียบเลียนแบบเว็บไซต์ที่แท้จริง เพื่อหลอกผู้ใช้บัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน การฟิชชิ่งนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ และมีผลกระทบอย่างมากต่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
2.3 การฝนกระจาย (Pharming)
การฝนกระจายคือการสร้างเว็บไซต์ปลอมมาให้เหมือนกับเว็บไซต์ที่เป้าหมาย โดยผู้ละเมิดจะพยายามสร้างการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ที่เป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูล
2.4 การจู่โจมผ่านโทรศัพท์ (Vishing)
การจู่โจมผ่านโทรศัพท์เป็นการหลอกลวงเหยื่อผ่านโทรศัพท์ โดยทำการฝังโค้ดมาในส่วนของเสียงที่เหยื่อได้รับในเวลาระหว่างการโทร ทำให้เสียงเหมือนกับเสียงขององค์กรหรือบุคคลที่เป้าหมาย และทำให้เหยื่อรู้สึกว่าเสียงเหล่านั้นเป็นจริง
2.5 การกระจายไวรัส (Malware)
การกระจายไวรัสเป็นการใช้โปรแกรมที่ร้ายแรงและอันตรายโดยผู้ที่ละเมิดส่งสิ่งนี้หรือการลักลอบให้โปรแกรมเข้ามาแทรกแอคเคาท์ของผู้ที่ละเมิด ไวรัสนั้นสามารถแสดงข้อมูลส่วนตัว ปลอมเข้าสู่ระบบ หรือหลอกลวงผู้ใช้ได้
ส่วนที่ 3: วิธีตรวจสอบการขโมยข้อมูลสำคัญ
3.1 ผู้ใช้ควรตรวจสอบประจำตัวของเว็บไซต์ทุกครั้งที่เข้าใช้
ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่าเว็บไซต์ที่เข้าใช้มีการใช้การเชื่อมต่อ SSL หรือไม่ เพราะเป็นการควบคุมด้านความปลอดภัยสำหรับการส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้และเว็บไซต์
3.2 ผู้ใช้ควรใช้สมาชิกตัวยงของธนาคารหรือบริษัทในการทำธุรกรรมด้านการเงิน
ผู้ใช้ควรใช้สมาชิกตัวยงของธนาคารหรือบริษัทในการทำธุรกรรมด้านการเงิน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมสำหรับการจ่ายเงิน
ส่วนที่ 4: FAQ
คำถาม: การควบคุมหน้าเว็บรูปแบบ SSL คืออะไร
คำตอบ: การควบคุมหน้าเว็บรูปแบบ SSL หรือ Secure Sockets Layer เป็นการตรวจสอบความปลอดภัยระหว่างการส่งข้อมูลจากผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์และเป็นการควบคุมด้านความปลอดภัยสำหรับการส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้และเว็บไซต์
คำถาม: การใช้ SSL จะช่วยป้องกันการแฮกและการขโมยข้อมูลได้อย่างไร
คำตอบ: การใช้งาน SSL จะช่วยป้องกันการแฮกและการขโมยข้อมูลโดยการเข้ารหัสข้อมูลระหว่างการส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้และเว็บไซต์ที่ถูกเชื่อมต่อกัน
คำถาม: การมีสมาชิกตัวยงค์จะช่วยป้องกันการขโมยข้อมูลได้อย่างไร
คำตอบ: การมีสมาชิกตัวยงค์จะช่วยป้องกันการขโมยข้อมูลโดยการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ใช้ก่อนการทำธุรกรรม และให้ความคุ้มครองความปลอดภัยในการทำธุรกรรมแบบออนไลน์
สรุป
การที่เราจะสามารถป้องกันการขโมยข้อมูลสำคัญนั้น การรู้จักมิจฉาชีพและตรวจสอบเพื่อป้องกันความเสี่ยงก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งในบทความนี้ได้นำเสนอรายชื่อมิจฉาชีพที่ต้องรู้และวิธีตรวจสอบการขโมยข้อมูลสำคัญไว้เพื่อเป็นการช่วยเหลือทั้งควบคุมความปลอดภัย และป้องกันความเสี่ยงให้น้อยลงในการขโมยข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต