ห นิง ป ณิ ตา และการเป็นหนึ่งในหน้าที่ของหมอสาวไทย
หนึ่งในจุดเด่นของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในสาขาพยาบาลคือการมีหลายภาษาสอนในหลักสูตร ทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์การเรียนรู้และสื่อสารกับคนจากทั่วโลก แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือนักศึกษาจะเก็บความรู้และประสบการณ์จากอาจารย์ที่มาจากหลายประเทศและวัฒนธรรมต่างๆ เข้ามาช่วยสอนอีกด้วย
ในมุมมองของนักศึกษาที่เรียนสาขาพยาบาล มีเรื่องราวของหนึ่งในศิลปินไทยชื่อดัง ห นิง ป ณิ ตา ที่เป็นหนึ่งในหน้าที่ของหมอสาวไทยในช่วงเวลาที่เธอเริ่มต้นการทำงานในสายวิชาชีววิทยาการแพทย์ (Medical Biotechnology) ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
การเป็นหนึ่งในหน้าที่ของหมอสาวไทย
“หมอไทย” เป็นคำที่เห็นได้บ่อยในวงการแพทย์ ซึ่งไม่ได้หมายถึงอาชีพหมอของชาติไทยเท่านั้น แต่เป็นการพูดถึงอัตลักษณ์หรือการฝึกอบรมและฝึกปฏิบัติเพื่อเอาชนะผู้ป่วยและกำลังใจบริเวณใจของผู้มาปรึกษาแพทย์ในช่วงเวลาที่เจอกับปัญหา และต้องการผู้เชี่ยวชาญในสายงานดังกล่าวให้ช่วยเหลือ โดยเฉพาะการเป็นหมอสาว ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากหมอผู้หญิงสามารถให้การบริการทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยให้มีการรักษาด้วยความอบอุ่นและเข้าใจผู้ป่วยและครอบครัวได้ดี ทำให้ผู้ป่วยมีความสุขภาพที่ดีขึ้นเร็วขึ้นและมีชีวิตที่ดีกว่า
ห นิง ป ณิ ตา หรือ หมอปา เป็นหนึ่งในหน้าที่ของหมอสาวไทยในช่วงเริ่มต้นฝึกงานในการรักษาผู้ป่วยรายนี้ในมุมมองของเธอเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ เธอได้รับหน้าที่ทำงานในแผนกวิทยาศาสตร์โมเลกุลและเซลล์ เอกสารที่ได้รับจากห้องปฏิบัติการในการศึกษาใหม่ๆ ที่เธอได้เรียนรู้ในห้องเรียน ช่วยให้เธอทุ่มเทในการทำงานและตอบคำถามที่เปลี่ยนตลอดเวลาได้โดยไม่มีความกังวลว่าจะทำถูกหรือทำผิด การฝึกอบรมแบบนี้ได้ทำให้เธอมีความเชี่ยวชาญที่สูงขึ้นหลังจากจบการศึกษาและได้รับใบประกาศนียบัตรบนสายงานดังกล่าวด้วย
การเป็นหมอสาวสามารถสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ดีกว่าหมอชาย
ภาพที่มีอนาคตในอดีต โดยการแสดงออกจากความคิดทางสังคมแล้ว ก็คือได้ยินเรื่องเรากับท่านหมอเต้าเสียบเกลือ หรือเห็นที่ไหนพูดถึงหมอผู้หญิงไทยจะเห็นเหมือนว่าผู้สื่อข่าวที่นำมาประกอบกัน จะมีคำพูดที่น่าประทับใจกว่าเรื่องเรากับท่านหมอชาย ดังนั้นหากมีปัญหาสุขภาพแล้วต้องการให้คำปรึกษาแพทย์ มักจะมีการเลือกที่จะไปพบที่หมอผู้หญิง ซึ่งนับได้ว่าตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้ดี ดังนั้นการเป็นหมอสาวไทยนั้นผ่านการฝึกอบรมและแข่งขันชะเย่อกันเองในวงการด้วยความสุข และความรับผิดชอบในหน้าที่การให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ป่วย ที่สูงมากที่สุด
การฝึกอบรมอย่างใกล้ชิด
ในการฝึกงานหรือการฝึกอบรมด้วยพื้นฐานของหลักสูตรตามมาตรฐานที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นเรื่องที่ชั้นนำที่สุดในการประกอบวิชาชีพนี้ ทุกวันนี้มีการบูรณาการระหว่างวิชาการฝึกอบรมกับการทำงานในหน่วยงานจริงๆ เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้และฝึกฝนการทำงานในสภาพแวดล้อมที่จริงจัง โดยการฝึกงานของหญิงในฐานะนักเรียนหมอจะเริ่มต้นได้ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เก่าของอาลัยต้องการให้การบริการทางการแพทย์ เช่น ผู้ป่วยมะเร็งหรือผู้ป่วยในระยะเวลาหลังวินิจฉัยว่ายืนยันผลการตรวจที่ไม่แน่นอนได้แล้ว เหตุการณ์นี้เป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยและครอบครัวที่จะได้พบกับหมอผู้หญิงที่ช่วยให้เขาผ่านเวลาที่ย่ำแย่ได้อย่างมีความสุข
หลักที่ 8: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเตรียมนักศึกษาให้พร้อมที่จะเป็นผู้นำและทำงานในบริบททางวิชาชีพและสังคม
ข้อ บ่งชี้
1. หนึ่งในจุดเด่นของหลักสูตรพยาบาลที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือการมีหลายภาษาสอนในหลักสูตร ทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์การเรียนรู้และสื่อสารกับคนจากทั่วโลก
2. หมอผู้หญิงสามารถให้การบริการทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยให้มีการรักษาด้วยความอบอุ่นและเข้าใจผู้ป่วยและครอบครัวได้ดี ทำให้ผู้ป่วยมีความสุขภาพที่ดีขึ้นเร็วขึ้นและมีชีวิตที่ดีกว่า
3. แม้จะว่าจะหมอผู้หญิงสามารถให้การบริการทางการแพทย์ดีกว่าหมอชาย แต่ก็มีหมอชายที่ทำงานดีอยู่ด้วย ความสามารถในการตอบสนองที่ดีของหมอสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกรณีกับผู้ช่วยแพทย์ชายหรือหญิง
4. การเป็นหมอสาวไทยบางครั้งอาจไม่ง่าย เนื่องจากต้องลุ้นความสำคัญและไว้วางใจด้วยเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดากับผู้ป่วย
FAQs
1. หมอผู้หญิงสามารถให้บริการทางการแพทย์ได้ดีกว่าใคร?
ไม่ใช่ว่าหมอผู้หญิงให้บริการทางการแพทย์ได้ดีกว่าใครแน่นอน แต่หลักสูตรการฝึกอบรมที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นรายละเอียดการฝึกอบรมทั้งการศึกษาและการทำงานจริงกันให้ค่าความสำคัญ ขนาดที่จะช่วยให้นักศึกษารู้และฝึกฝนการทำงานในสภาพแวดล้อมที่จริงจัง และสามารถแสดงความสามารถกับงานต่างๆได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นความสามารถในการให้บริการทางการแพทย์ของหมอสาวและหมอชายจึงเทียบเท่ากัน แต่การเป็นหมอผู้หญิงนับได้ว่าตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้ดี
2. นักศึกษาสาขาพยาบาลจะได้รับประสบการณ์อะไรมากกว่าจากการเรียนงานในห้องเรียน?
การเรียนงานหรือการฝึกอบรมจะทำให้นักศึกษาได้เข้าใจกับงานและสภาพแวดล้อมการทำงานจริงของพวกเขา นอกจากนี้ยังได้ทำความรู้จักผู้ป่วย ระบับว่ายุติธรรมของเขาเพียงใดที่พวกเขามีปัญหาทางสุขภาพ ซึ่งสอบถามคำถามและเคล็ดลับบางอย่างจะทำให้นักศึกษารู้สึกอยู่ในการบริการทางการแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น
3. หมอสาวไทย