หมดความอดทน: การพอทนไม่ได้แล้ววันนี้
ได้ยินไปหลายครั้งว่า “หมดความอดทน” คงเป็นคำกลางใจที่คนส่วนใหญ่เคยเจอมาแล้วไม่น้อยกับเราเอง คุณเคยทนทุกอย่างในชีวิตแล้วแต่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เพราะเชื่อว่าการพอทนจะช่วยให้ทนได้มากๆ กว่านั้น แต่ความจริงไม่ได้อยู่แค่เท่านั้น เพราะเรามีเวลามีวันที่หมดไปได้ ทำให้การพอทนไม่ได้แล้ววันนี้เป็นเรื่องปกติได้เงียบๆ
หมดความอดทน คืออะไร?
ความอดทนคือคุณสมบัติที่ต้องมีเมื่อเราต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก หรือไม่สบายใจ ซึ่งการอดทนแสดงถึงความเข้มแข็งของเราในขณะที่เผชิญกับความเครียดหรือปัญหาต่างๆ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นในด้านการงาน ด้านครอบครัว หรือเรื่องโรคภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน การพอทนจึงทำให้เรารับมือได้ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ คือการจัดการสถานการณ์ให้เป็นไปได้ด้วยความมั่นใจ
แต่ถ้าหากเกิดเราไม่มีความอดทนอย่างเพียงพอ การชนะความทุกข์ย่ำยีสักครั้งก็ย่ำแย่งรอดไป แปลว่าในที่สุดจะออกเป็นผู้แพ้ และอาจถึงเวลาที่หมดความอดทนลง ที่หายไปสะสั่นอยู่ใต้ฟากฟ้าเมื่อสิ้นสุดแค่คำพูดไม่ดีหรือความคาดหวังที่ตั้งไว้ไม่สำเร็จ การที่เข้าใจพฤติกรรมของเราเอง และรับรู้ว่าหมดความอดทนไม่ได้แปลว่าเราเป็นคนที่แย่ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีในชีวิต เพราะการพอทนในการแก้ไขปัญหาเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุด
สาเหตุที่ส่งผลให้หมดความอดทน
มีหลายสาเหตุที่ส่งผลให้ความอดทนของเราลดลง อาจเป็นเพราะความตึงเครียดในการทำงาน การแบ่งปันเรื่องส่วนตัวในสังคมออนไลน์ที่มีความไม่เป็นส่วนตัว หรือการที่เราไม่รักษาสมดุลความเครียดเเละผ่อนคลายตนเองอย่างเพียงพอ โดยสาเหตุที่สำคัญนี้ ทำให้เราเฉยเมื่อเกิดสิ่งที่ยุ่งยากขึ้น หรือมีการอดทนที่ต่ำกว่าเดิม ที่สะท้อนถึงการเติบโตของเราและการตั้งแต่งตัวของเราภายใน
วิธีการเปลี่ยนแปลงเพื่อรักษาความอดทน
การจัดการกับความอดทนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะท่าน่องจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องรับมือกับสภาพภูมิคุ้มกันที่ยิ่งใหญ่ขึ้นและการแพร่ระบาดโรคกระจาย ดังนั้นเพื่อรักษาความสุขอดตาย (mental wellbeing) ต้องคำนึงถึงการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เช่น การทำกิจกรรมที่ชอบ การนั่งสมาธิ การอ่านหนังสือธรรมะ เป็นต้นในการผ่อนคลายเเละเน้นการเลือกกินอาหารที่เหมาะสม เพราะอาหารที่คุณรับประทานเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถส่งผลต่อดัชนีมวลกายและการทำงานของสมองได้ หรือการหาเเหล่งกำเนิดความสุข การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด เป็นต้น นอกจากนี้เรายังต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น และระดมกำลังใจจากคนที่เรารัก ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความอดทนที่ดี
FAQs
1. ถ้าไม่สามารถพอทนได้อีกแล้ว ควรทำอย่างไร?
คำแนะนำที่ดีที่สุดคือการรับรู้สายตาหมองหม่นว่าเราโดนเเพ้เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ ข้อควรระมัดระวังคือความคาดหวังที่เตรียมตัวไว้ในตัวเอง เพราะมันอาจพังทลายได้ด้วยคำพูดที่ไม่ดีจากผู้อื่น อย่าลืมว่าเราเป็นมนุษย์และต้องผ่านการฝึกฝนด้านอดทนและความสุขอีกครั้ง
2. มีวิธีใดที่จะช่วยเพิ่มความอดทนได้หรือไม่?
การออกกำลังกายและการนอนหลับในเวลาเหมาะสมเป็นเเนวทางที่ดีในการช่วยเพิ่มความอดทน คุณต้องคิดทบทวนเรื่องตนเองส่วนบุคคลเเละเรียนรู้ด้วยการทำและมองเห็นจากประสบการณ์อย่างฝึกฝน การรับรู้ว่าเราเกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถช่วยเสริมความกล้าหาญของเราได้
3. มีแนวทางใดรูปแบบการดูแลสุขภาพประจำวันที่เเข็งแกร่งที่สุดหรือไม่?
แนวทางหนึ่งในการดูแลสุขภาพประจำวันคือการบำรุงความเเข็งแกร่ง ทั้งกาย ใจ จิตใจ และการมีปัจจุบันในทุกวัน เราควรเลี่ยงการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น จำไว้ว่าเราสนุกกับสิ่งที่เราทำอยู่ในปัจจุบัน เพื่อรักษาอดทนที่ดี เพราะความอดทนนี้ช่วยป้องกันภาวะสุขภาพจิตโดยทั่วไปและอุบัติเหตุที่ระบบโรคหัวใจและหลอดเลือดทำเนียบดีขึ้น ”’
