ศาลยุติธรรม ทำงานเพื่อวัตถุประสงค์ใด?
ศาลยุติธรรม ทำงานเพื่อวัตถุประสงค์ใด?
ศาลยุติธรรมหรือที่เรียกกันว่า “ศาลฎีกา” เป็นหน่วยงานภาคธุรกิจที่มีหน้าที่รับฟังคดีและตัดสินคดีต่างๆ ในสังคมไทย การปกครองในระบบประเทศไทยถูกกำหนดให้เป็นระบบประชาธิปไตยแบบราชการ โดยมีพยานผู้ทรงพลังเท่านั้นที่สามารถประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สังคมไทยได้มีความเชื่อมั่นและเท่าเทียมกันในสิทธิและการจัดการ ดังนั้นศาลยุติธรรมจึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาความยุติธรรมและความเท่าเทียมกันของประชาชนทุกคนในสังคมไทย
หน้าที่ของศาลยุติธรรม
1. การให้คำปรึกษา
ศาลยุติธรรมมีหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและอธิบายความหมายของกฎหมายแก่ประชาชนที่มาร้องเรียนและต่อเนื่องจากนั้นให้การปรึกษาให้แก่ประชาชนทั่วไป เพื่อให้เข้าใจกฎหมายและเข้าใจกระบวนการของคดีที่ได้กล่าวไว้ในคำพิพากษา โดยเป็นการให้บริการแก่ประชาชนไทยทุกวัน เช่นการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเรื่องสัญญา แยกแยะปัญหาอื่นๆในชีวิตประจำวันและกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าใจถึงสิทธิและหน้าที่ของตนได้อย่างชัดเจน
2. การรับฟังกฎหมายและอภิปราย
หน้าที่สำคัญของศาลยุติธรรมคือการรับฟังเรื่องร้องเรียนการละเมิดสิทธิและการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายชนิดต่างๆ เช่น ธุรกิจ การประกันภัย ด้านคดีความ และคดีความเป็นอัตวิสัย การตัดสินคดีต่างๆ ของทางศาลนั้นเป็นการแบ่งงานระหว่างที่รับสาระคดี และตัดสินการลงโทษจนถึงการไปยังกระบวนการดำเนินคดีในศาลฎีกา
3. การกำกับดูแล
อีกหนึ่งบทบาทของศาลยุติธรรมคือการกำกับดูแลจัดการศาลฎีกาเพื่อให้การยุติธรรมและการตัดสินที่แม่นยำทำได้ตามที่กำหนดและเป็นไปตามความเหมาะสม โดยตัวอย่างการตัดสินคดีได้แก่ งานรวมทุนและดอกเบี้ย สิทธ์เช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือมาตรการป้องกันและบำรุงรักษาสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า โดยจะต้องให้การบริการได้รับการอำนวยความสะดวกและเรียบร้อยในมาตรฐานที่มีคุณภาพและความเป็นมาตรฐานสูงตามที่กำหนดเอาไว้
4. การเผยแพร่ข้อมูล
ศาลยุติธรรมมีการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ แก่ประชาชนเพื่อให้เข้าใจในกระบวนการทางมาตรฐานคดี ความปลอดภัยกฎหมายและบอกความเป็นจริงเกี่ยวกับการพิจารณาคดีให้สื่อมีข้อมูลและบริการที่จ้างมากถึงการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการตัดสินคดีต่างๆ โดยคำตอบแต่ละคำถามสามารถปรับปรุงได้ตามมาตรฐานการบริหารงานของศาลฎีกา
FAQs เกี่ยวกับศาลยุติธรรม
1. การสมัครเป็นทนายควรทำอย่างไร?
เพื่อเข้าได้สู่ศาลยุติธรรมในฐานะทนายควรทำการสมัครเข้าสู่โครงการสหกิจศึกษาในหลักสูตรจบในสาขากฎหมาย หรือทำการสมัครทางการไปต่อวิชาวิทยาการกฎหมายต่อไป เพื่อได้รับปริญญาเสริมความสามารถและรูทีวีในการจัดการงานศาลฎีกา
2. ผู้สมัครต้องเตรียมตัวยังไงเมื่อไปสอบคัดเลือกทางกฎหมาย?
ผู้สมัครจะต้องเตรียมความพร้อมด้านความรู้ความสามารถทางศาสตร์การศึกษาและการฝึกอบรมให้เพียบพร้อม อย่างเช่น เรียนรู้เรื่องทางกฎหมายและข้อกฎหมายจากอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมความรู้ด้านต่างๆ ในหลักสูตรการฝึกอบรม การอาชีพทางกฎหมายและการเตรียมตัวสารพัดู.
3. ลูกค้าสามารถมีส่วนในการสนทนากับผู้จัดการศาลได้รึเปล่า?
เมื่อลูกค้ามีความจำเป็นที่จะต้องนำเสนอเหตุผล ส่งผลกระทบหรือร้องเรียนเกี่ยวกับการบริหารศาลฎีกา สามารถติดต่อผ่านทางศาลฎีกาได้ตามวิธีเพื่อให้ได้ความช่วยเหลือและปรับปรุงขั้นตอนทำงานให้ดียิ่งขึ้น การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้สามารถทำได้ผ่านการแจ้งเบอร์โทรศัพท์ในสำนักงานศาลฎีกา หรือผ่านการแจ้งบริการลูกค้าทางอีเมลที่สามารถติดต่อได้ทุกหน่วยงาน
ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ด้วยภาพจำของผู้ร้องทุกคนอาจใช้การกรอกแบบออนไลน์เพื่อส่งคำร้องต่างๆ และการเดินทางไปยังสำนักงาน ทำโดยตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงจากการระบาดของโรคโควิด-19